บทสัมภาษณ์เพื่อนบ้าน : ความรู้เกี่ยวกับมังงะและการ์ตูน

สวัสดีค่ะทุกคน สบายดีกันรึเปล่าเอ่ย? วันนี้ลายครามจะพาเพื่อนคนนึงมาทำความรู้จักกับทุกคนล่ะ! จากการสัมภาษณ์ในหัวข้อ “ความรู้เรื่องมังงะและการ์ตูน” เท่าที่ฉันทราบมา เพื่อนของฉันคนนี้ชอบทั้งสองอย่างนั้นอย่างแน่นอน มาเริ่มบทสัมภาษณ์อันน่าตื่นเต้นกันเลยดีกว่าค่ะ!

Q : งั้นเริ่มจาก ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ

A : สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออุ้ม หรือจะเรียกว่า Lalynn ก็ได้นะคะ ตอนนี้เป็นนิสิตสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒค่ะ ปัจจุบันอยู่ปี4แล้วค่ะ

ขอบคุณนะคะคุณอุ้ม เพื่อนๆอาจจะคุ้นชื่อ Lalynn มาไม่มากก็น้อย เธอเป้นหนึ่งในเพื่อนของฉันที่ร่วมกันเขียนซีรี่ย์ bloody party : คดีฆาตกรรมราตรีสีชาด เจ้าของเรื่องสั้น ศพที่ 3 : โคซากะ มิคาโดะ นั่นเองค่ะ

งั้นเพื่อไม่เป็นการเสีเวลา เรามาเริ่มที่คำถามต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ!

Q : มีมังงะหรือการ์ตูนแนวที่อ่านเป็นประจำมั้ยคะ

A : จริงๆแล้วก็อ่านได้ทุกแนว แต่ถ้าที่อ่านประจำมาตลอดก็จะเป็นแนวชีวิตประจำวัน slice of life เซอไวเวิลเอาชีวิตรอด กีฬา อาหาร อาชีพ แฟนตาซี ผจญภัย แล้วก็แนววายค่ะได้ทั้งBL GLเลยค่ะ

มีรสนิยมตรงกันในบางแนวเหมือนกันนะคะ บางทีฉันคงขอแลกรายชื่อหนังสือน่าอ่านอีกสักหน่อยหลังจากนี้ งั้นไปต่อกันที่คำถามข้อต่อไปเลยค่ะ

Q : คุณอุ้มมีสไตล์และบทบาทตัวละครที่ชอบเป็นพิเศษบ้างรึเปล่าคะ

A : ถ้าเป็นตัวละครที่ทำให้รู้สึกเมน ชอบเป็นพิเศษจะค่อนข้างจะชอบตัวละครที่มีแนวไปทางน่ารัก หรือให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูค่ะ แต่ถ้ามองจากภายนอกแค่รูปร่างหน้าตาถ้าเป็นตัวละครชายจะชอบตัวละครที่ผมยาวหรือตัวละครที่ค่อนไปทางสวยค่ะ แบบถึงจะมองภายนอกแล้วให้ความรู้สึกว่าคนนี้มีเสน่ห์ สวย แต่ถ้าเป็นตัวละครหญิงเราจะชอบผมสั้นมากกว่าค่ะอาจจะเพราะตัวเองไม่ได้ไว้ผมสั้นก็เลยสนใจตัวละครผมสั้นมากกว่า

แต่ถ้าดูกันที่นิสัยส่วนมากที่ชอบจะเป็นแนวปากแข็งแต่ว่าใจดีค่ะ ไม่ถึงขั้นที่ปากไม่ตรงกับใจแต่เป็นพวกใจอ่อนง่ายมากกว่า แต่นิสัยแนวซื่อตรงร่าเริงหรือไทป์หมาไปเลยก็ค่อนข้างชอบนะคะให้ความรู้สึกเหมือนลูกน้อยดีค่ะเห็นแล้วอยากเลี้ยง55555 แต่ว่าปมเบื้องหลังตัวละครก็น่าสนใจนะคะเพราะว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาตัวละครแต่ละตัวก็จะมีเบื้อหลังชีวิตกันทุกคนรวมถึงตัวร้ายด้วย ยิ่งหลังๆยิ่งเห็นเยอะเลยทำให้รู้สึกว่าตัวละครเหล่านี้สมจริงขึ้น เป็นตัวละครเทาๆ ทำให้เวลาเลือกชอบตัวละครสักเรื่องเนี่ยไม่ค่อยจะปักว่าเป็นตัวดีหรือตัวร้ายชัด ๆ บางทีไปแอบชอบตัวประกอบก็มีค่ะ555 แต่ก็จะเป็นตัวละครที่เราได้รู้จักรู้นิสัยปัจจุบัน รู้อดีตแล้วรู้สึกอยากเอาใจช่วยนั่นหละค่ะ เลือกชอบไปแล้วนิสัยแบบไหนก็รับได้ค่ะ5555

พูดได้เต็มปากเลยค่ะว่าฉันเห็นด้วยเรื่องมิติของตัวละคร ทั้งเบื้องหลังและปมของตัวละครนี่ช่วยขับเสน่ห์มากจริงๆนะคะ! แถมพอดูจากความยาวของคำตอบที่ได้รับมา พอจะรู้เลยล่ะค่ะว่าคุณอุ้มมีความรักความเอ็นดูให้กับตัวละครในมังงะและการ์ตูนมากขนาดไหน

Q : คุณอุ้มมีคิดว่าตลาดมังงะและการ์ตูนมีความสมเหตุสมผลในด้านราคาบ้างมั้ยคะ

A : อันนี้จริงๆคิดว่าขึ้นกับแต่ละสำนักพิมพ์ แต่ดูโดยรวมแล้วในปัจจุบันรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเท่าไร ราคามังงะและการ์ตูนในช่วงนี้เริ่มพุ่งสูงมากขึ้นด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง แต่ว่าคุณภาพของหนังสือกลับไม่ได้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของคุณภาพกระดาษ หมึก การแปล แต่ราคากลับขึ้นอย่างไร้เหตุผล อย่างเช่น สำนักพิมพ์สยาม เป็นเครือที่ใหญ่และราคาคงที่มาค่อนข้างนานก็ได้มีการปรับราคาขึ้นจากเมื่อก่อนราคาจะอยู่ประมาณ 40-50 บาท ก็ค่อยๆขยับเป็น60 และปัจจุบันอยู่ที่ราคา 90 บาท แต่ในแง่ของการพิมพ์โดยรวมคุณภาพของหนังสือกลับไม่ได้ดีขึ้นหรือเลือกพิมพ์คุณภาพดีเฉพาะเรื่องที่ขายได้แต่เรื่องอื่นราคาเท่ากันแต่ไม่ได้ดังหรือขายได้เท่ากลับได้รับการตีพิมพ์ที่แย่กว่า ทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้มกับราคาในเมื่อทางสำนักพิมพ์สามารถตีพิมพ์หนังสือคุณภาพดีในราคาเท่ากันได้ทำไมถึงไม่ทำ แต่สำนักพิมพ์ที่รู้สึกว่าคุ้มราคาก็มี เช่น รักพิมพ์ที่รู้สึกว่าคุณภาพการพิมพ์และการแปลโอเคแต่ไปติดตรงที่ตีพิมพ์ค่อนข้างน้อย เราเห็นคนเรียกร้องให้พิมพ์เพิ่มหลายเรื่องมาก แต่ส่วนตัวเรื่องที่เราซื้อก็ไม่ได้ขาดตลาดนะอาจจะเพราะไม่ได้ดังขนาดนั้นแต่ช่วงนี้ปัญหาหนังสือของรักพิมพ์ขาดตลาดค่อนข้างเยอะเลย กับสำนักพิมพ์เปิดใหม่อย่างดังโงะมังงะนี่ก็รู้สึกว่าค่อนข้างคุ้มราคาอยู่นะ รู้สึกว่าทางสำนักพิมพ์ค่อนข้างใส่ใจในการทำหนังสือทีเดียว เช่น ปกมังงะจะมีการจัดให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งสำนักพิมพ์ และกระดาษที่นำมาพิมพ์ปกก็แตกต่างกัน เราซื้อ2เรื่องแรกของสำนักพิมพ์มา เรื่องหนึ่งตีพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตด้าน อีกเล่มเป็นกระดาษอาร์ตมันแบบปกมังงะทั่วไป ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเขาตั้งใจทำก็เป็นการแสดงความใส่ใจที่ดี

วิเคราะห์ได้เฉียบขาดมากค่ะคุณอุ้ม นั่นสินะ บางทีกระวบวนการภายในสำนักพิมพ์ก็ทำให้เรารู้สึกไม่เข้าใจอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องราคาที่แพงเอาๆ คงลำบากแย่สำหรับคนที่ชอบซื้อหรือสะสมการ์ตูนเป็นเล่ม

Q : มีมังงะหรือการ์ตูนที่อยากอ่านตอนจบมากที่สุดรึเปล่าคะ

A : ข้อนี้ถ้าให้เลือก เรื่องเดียวก็ลำบากอยู่นะคะ 55555 ที่เราติดใจหลัก ๆ มี 3 เรื่องค่ะ คือ วันพีซ โคนัน แล้วก็ดีเกรย์แมน ค่ะ 555 ที่มีโอกาสจบตอนนี้มากสุดน่าจะวันพีซ เพราะทางอ.โอดะที่เป็นนักเขียนก็เคยออกมาบอกว่าดำเนินเรื่องไปได้ค่อนข้างไกล 60% เมื่อ2-3ปีก่อน ก็คิดว่าคงมีโอกาสได้ดูตอนจบ ในเร็ววันนี้แหละค่ะ โคนันก็ยังไปเรื่อย ๆ ด้วยความนิยมที่ค่อนข้างคงที่จบในตอนเลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องหลักค่อนข้างช้าแต่ก็เปิดอะไรมาเยอะอยู่ ทำให้เรื่องที่อยากอ่านตอนจบมากสุดก็คงเป็นดีเกรย์แมนค่ะ ด้วยความที่อาจารย์ป่วย มีอาการบาดเจ็บทำให้เขียนได้ช้า ปีหนึ่งออกมา 4 ตอน เลยค่อนข้างลุ้นมากว่าเนื้อเรื่องจะจบลงยังไงค่ะ

เราจะรอตอนจบไปด้วยกันนะคะ ทั้งเรื่องวันพีซ ทั้งโคนัน แล้ว็ดีเกรย์แมนเลยค่ะ เอาจริงๆเรื่องโคนันนี่ก็เรียกได้ว่ารอลุ้นอยู่นะคะว่ากว่าเราจะแก่ เราจะได้ดูโคนันตอนจบกันรึเปล่า

Q : แนวมังงะและการ์ตูนที่คิดว่าได้รับความนิยมในช่วงนี้คิดว่าเป็นมังงะแนวไหนซะส่วนใหญ่คะ

A : ถ้าแนวที่ได้รับความนิยมช่วงนี้ในกลุ่มผู้หญิงน่าจะเป็นแนวกีฬา หรือการ์ตูนจากเครือโชเน็นจัมป์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องแนวสายอาชีพ อย่าง BluePeriod ที่เป็นเรื่องทางสายอาชีพนักวาดตั้งแต่เป็นนักเรียนกับการสอบเข้าที่ค่อนข้างรีเลทกับตัวเองได้ก็จะเป็นที่นิยม แต่ในกลุ่มผู้ชายน่าจะเป็นแนวแฟนตาซี ไซไวเวิล ต่อสู้ ผจญภัย ตายแล้วเกิดใหม่ต่างโลกประมาณนั้น แต่เรื่อแนวหุ่นยนต์รบก็ยังอยู่เรื่อยๆนะ

นั่นสินะคะ จะว่าไปแนวที่ว่ามาก็เห็นได้บ่อยในช่วงนี้จริงๆ บางเรื่องก็ได้รับความนิยมสูงจนถึงขั้นพบเห็นได้ตามสื่ออื่นจนแทบเอียนไปช่งวนึงเลยล่ะค่ะ แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า Pop Culture ด้านมังงะและการ์ตูนของญี่ปุ่นสินะ

Q : มีมังงะและแนวการ์ตูนที่อยากให้ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาแปลในประเทศไทยซักทีมั้ยคะ

A : อยากให้ซื้อลิขสิทธิ์แนวมังงะกึ่งสารคดี เรื่องที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อะไรแนวนี้ค่ะ หรือแนวสายอาชีพก็ดีเหมือนกันรู้สึกว่าในไทยไม่ค่อยมีมังงะหรือการ์ตูนแนวนี้เท่าไร หรือบางทีลิขสิทธิ์มาแล้วแต่กลับโดนดองแล้วก็ไม่ได้ออกต่อเลยอาจจะเพราะยอดขายไม่ดีหรืออะไรก็รู้สึกเศร้าๆ หน่อยนะคะแต่ถ้าเอาเข้ามาก็จะพยายามสนับสนุนตลอด

ช่วงก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นปีฉันก็มีโอกาสได้ดูเรื่อง “แผนกออกแบบสร้างสรรค์โลก” เหมือนกันค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่าการ์ตูนหรือมังงะแนวเกี่ยวกับความรู้ สารคดี หรือแนวสายอาชีพเนี่ยน่าสนใจในการเอาเข้ามาแปลมากๆ คงจะเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ฟังดูน่าสนุกสุดๆไปเลยล่ะค่ะ

Q : สุดท้ายนี้ มังงะและการ์ตูนที่อยากแนะนำให้เพื่อนอ่านบ้างมั้ยคะ

A : เอาเป็นเรื่อง ห้องเรียนลอบสังหาร แล้วกัน คิดว่าบางคนอาจจะรู้จักหรือเคยอ่านแล้วส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างดังในระดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องห้องเรียนลอบสังหารก็ในไทยเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์สยาม ไปหาซื้อกันได้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนม.ต้นปี3 ห้องE ที่ถือว่าเป็นห้องบ๊วยที่สุดทำให้ถูกแยกจากอาคารเรียนหลักไปเรียนบนภูเขาหลังโรงเรียนแล้วก็มีอาจารย์ย้ายมาใหม่ที่จะมาเป็นครูประจำชั้นแต่ว่าดันไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเป้าหมายจะทำลายโลกในอีก 1 ปีให้หลัง ทางรัฐบาลญี่ปุ่นที่ต้องการปิดเป็นความลับแต่ก็ไม่สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ได้เลยทำข้อแลกเปลี่ยนคือ คือมาสอนที่ห้องเรียนปี3ห้องEแห่งนี้โดยเด็กในชั้นสามารถฆ่าอาจารย์ได้ หากฆ่าได้ก็จะได้รางวัลเงิน 1หมื่นล้านเยน ทำให้ห้องเรียนลอบสังหารได้เริ่มต้นขึ้น สิ่งมีชวิตประหลาดตัวนี้ก็ได้นักเรียนตั้งชื่อให้ว่าโคโระเซนเซ ก็จะเป็นเนื้อเรื่องในช่วงเวลา 1 ปี ของห้องเรียนปี3ห้องEกับโคโระเซนเซที่ต้องสอนและฆ่าไปพร้อมกัน คิดว่าเรื่องนี้เป็นการ์ตูนที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองของการเรียน การเป็นครู ระบบการเรียนการสอนได้ค่อนข้างชัดเจนเลย เราเลยยกให้เป็นการ์ตูนแฟนตาซีการศึกษาที่ดีเรื่องหนึ่งเลย

ใจตรงกันอีกแล้วนะคะ การ์ตูนเรื่องนี้เองฉันก็ทั้งอ่านและทั้งดูมาจนจบแล้วเหมือนกันค่ะ ขอยืนยันอีกเสียงว่าเป็นการ์ตูนที่ควรค่าแก่การดูสักครั้งจริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นการ์ตูนแนวชีวิตวัยเรียนผสมแอคชั่นแล้ว ยังทำให้เราได้ตกตะกอนอะไรบางอย่างกลับมาด้วยค่ะ

จบไปแล้วนะคะกับการสัมภาษณ์คุณอุ้มในหัวข้อ “ความรู้เกี่ยวกับมังงะและการ์ตูน” ขอบคุณที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์และขอบคุณผู้อ่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมมากเลยนะคะ หากใครมีมังงะหรือการ์ตูนที่อยากแนะนำให้พื่อนได้อ่านบ้างก็สามารถแชร์กันได้นะคะ สุดท้ายนี้ ขอฝาก Laikram และ Lalynn ไว้ด้วยนะคะทุกคน สวัสดีค่า

ผู้ให้สัมภาษณ์ : Lalynn